‘ชริมป์การ์ด’วิจัยเพื่อกุ้งปลอดยาปฏิชีวนะ
ชริมป์การ์ด งานวิจัยพัฒนาสูตรผสมใหม่ สารชีวภาพแบคทีริโอฟาจ สู้แบคทีเรียดื้อปฏิชีวนะพัฒนากุ้งพรีเมียมปลอดโรค ปลอดภัยและปราศจากยาปฏิชีวนะเพื่อยกระดับสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับทีมวิจัยจาก กรมประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก และ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวโครงการความร่วมมือ ‘ชริมป์การ์ด’ (ShrimpGuard): การพัฒนาสูตรผสมของแบคทีริโอฟาจ (bacteriophage) หรือฟาจ (phage) และสารเสริมชีวนะเพื่อต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย Vibrio spp. ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะในกุ้งเลี้ยง หรือชริมป์การ์ด ได้รับทุนสนับสนุน 41,605,962 บาท จากศูนย์วิจัยการพัฒนาระหว่างประเทศ (International Development Research Centre: IDRC) ประเทศแคนาดา และกระทรวงสาธารณสุขและสังคม (Department of Health and Social Care) แห่งสหราชอาณาจักร ระยะเวลาดำเนินการ 32 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ถึงเดือนธันวาคม 2569
‘ชริมป์การ์ด’
เป็นสารชีวภาพที่นำมาใช้ป้องกันและควบคุมเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในระหว่างการเพาะเลี้ยงกุ้งที่มีประสิทธิภาพสูง
ลดการใช้ยาปฏิชีวนะต้นเหตุของการเกิดเชื้อดื้อยาในการเลี้ยงกุ้ง
สามารถพัฒนากุ้งพรีเมียมปลอดโรค
ปลอดภัยและปราศจากยาปฏิชีวนะเพื่อยกระดับสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค
ดร. กัลยาณ์ ศรีธัญญลักษณา-แดงติ๊บ นักวิจัยอาวุโส ไบโอเทค และหัวหน้าโครงการ ‘ชริมป์การ์ด’ กล่าวว่า ทีมวิจัยดำเนินโครงการพัฒนาสารชีวภาพที่เรียกชริมป์การ์ด แบคทีริโอฟาจ (bacteriophage) หรือไวรัสที่มีประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในกุ้งอย่างจำเพาะเจาะจง ไม่ส่งผลกระทบต่อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในระบบการเลี้ยงกุ้งและในลำไส้กุ้ง ภายใต้โครงการนี้ ชริมป์การ์ด จะพัฒนาให้ใช้ได้ทั้งในน้ำเลี้ยงกุ้งและในสูตรอาหารกุ้ง ด้วยนาโนเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความคงตัวของชริมป์การ์ด
รศ.ดร.กิติญา วงษ์คำจันทร์ โอราน |
รศ.ดร.กิติญา
วงษ์คำจันทร์ โอราน ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะอุตสาหกรรมเกษตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหน้าโครงการร่วมในโครงการวิจัย กล่าวว่าการพัฒนาสูตรอาหารกุ้งจะพัฒนาชริมป์การ์ด
ร่วมกับการพัฒนาสารชีวภาพอื่นอีก 3 ชนิดที่มีรายงานการวิจัยว่ากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของกุ้งให้มีความแข็งแรงต้านการก่อโรคของเชื้อแบคทีเรีย
สูตรอาหารนี้จะนำไปใช้ในการเลี้ยงลูกกุ้งเพื่อป้องกันและควบคุมเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการเลี้ยง
ข่าวแจ้งว่า โครงการให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายการสนับสนุนแนวทางการใช้สารชีวภาพทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลร่วมกับกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล โดย ดร. กัลยาณ์ กล่าวว่าจะพัฒนาเครือข่ายการทำงานร่วมกับศูนย์เครือข่ายสุขภาพสัตว์น้ำแห่งอาเซียน (ASEAN Network on Aquatic Animal Health Centres: ANAAHC) ที่กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ กรมประมง เป็นผู้นำศูนย์เครือข่าย โครงการวิจัยนี้มีคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและระบบเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาในสัตว์น้ำจากองค์กรทั้งในประเทศ และระดับนานาชาติ ได้แก่ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) องค์การข่ายงานศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแห่งเอเชียและแปซิฟิก (NACA) และศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) อีกด้วย
นายเพิ่มสุข
สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า
ประเทศไทยเคยเป็นผู้ผลิตกุ้งรายใหญ่อันดับสองของโลก มีการเพาะเลี้ยงในประเทศมากกว่า
90% แต่เสียส่วนแบ่งตลาดให้ประเทศคู่แข่งเช่นเวียดนามและจีน
เนื่องจากโรคระบาดในกุ้ง การปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะต่าง ๆ การห้ามส่งออก
และนโยบายการค้าที่ไม่เอื้ออำนวย การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกทำให้การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรงมากขึ้น
ส่งผลต่อสุขภาพและอัตราการรอดของกุ้ง เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง
โดยโรค
Vibriosis
จากการติดเชื้อแบคทีเรีย Vibrio spp. เป็นปัญหาหลักที่ทำให้กุ้งตายในฟาร์มเลี้ยงและโรงเพาะฟัก
เกษตรกรจึงใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีเพื่อควบคุมเชื้อและป้องกันโรค
แต่การใช้ยาที่ไม่เหมาะสม หรือเกินขนาดนำไปสู่ปัญหาเชื้อแบคทีเรียดื้อยา
การแพร่กระจายของเชื้อดื้อยาและยีนดื้อยาในสภาพแวดล้อม
รวมถึงการตกค้างของยาปฏิชีวนะในเนื้อกุ้ง
ศ.ดร.
ชูกิจ ลิมปิจํานงค์ ผอ.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า
การพัฒนาเพื่อลดปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องเร่งด่วน สวทช. โดย ดร. กัลยาณ์
ศรีธัญญลักษณา-แดงติ๊บ นักวิจัยอาวุโส ทีมวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำ
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติหรือไบโอเทค สวทช. หัวหน้าโครงการชริมป์การ์ด ได้ร่วมกับทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรมประมง ดำเนินโครงการ ‘ชริมป์การ์ด’ ซึ่งจะมีส่วนช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งให้มีความยั่งยืน
ลดการพึ่งพายาปฏิชีวนะแบบดั้งเดิม
ผลสำเร็จจากโครงการวิจัยนี้จะเผยแพร่ผ่านเครือข่ายความร่วมมือภาครัฐ กรมประมง และภาคเอกชน เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและข้อมูลแก่เกษตรกร ใช้เป็นแนวทางทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะในการเพาะเลี้ยงกุ้ง เพื่อสร้างกระบวนการเพาะเลี้ยงที่ยั่งยืนและปลอดภัยในระยะยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น