นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา ชี้โควิด-19 จะอยู่ตลอดไปเหมือนโรคซาร์ส์ ตอนนี้เริ่มเห็นแสงสว่างสำหรับยารักษาปอด ไม่หวั่นระยะที่ 3 เพราะไม่ทำให้อาการแรงขึ้น
Pศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต
หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก
กล่าวในการเสวนาเรื่องจะใช้ชีวิตอย่างไรในโลกยุคCOVID-19 ที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 12มี.ค.63 ตอนหนึ่งว่า
วงการแพทย์กำลังใช้ความพยายามเต็มที่กับโรคจากไวรัสโควิด-19 โดยโรคนี้จะอยู่กับเราตลอดไปจึงต้องเตรียมการ
และทุกคนจะต้องช่วยกันชะลอโรคนี้
“ถามว่าจะอยู่กับเรานานแค่ไหน
ก็ตอนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็ระบาดข้ามปี
จากนั้นก็อยู่มาจนปัจจุบัน ตอนนั้น วันแรกเราก็กลัว แต่ตอนนี้ไม่ ทั้งนี้ ความกลัวจากการระบาดของ
โควิด-19 อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น ช่วงแรกคนในประเทศจีนไม่ไปบริจาคเลือด
ของเราจึงควรทำให้มั่นใจไปบริจาคให้ได้ โรคนี้ การป้องกันทำได้โดยการล้างมือ และการมีระยะห่างระหว่างบุคคล
(Personal distant) ประมาณ2เมตร เพราะน้ำลายคนอาจไปได้
1เมตร หรือการปลีกตัวจากสังคม (Social distant) ขณะนี้ทราบว่า งานแต่งงานบางรายก็ยกเลิกการจัด ขอให้ส่งคำอวยพรทางอินเทอร์เน็ต
นพ.ยงกล่าวอีกว่า
การระบาดขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 ส่วนระยะที่ 3 เป็นการระบาดที่ไม่ทราบว่ามาจากไหน วงการแพทย์กำลังรอยา ที่จะรักษาไม่ให้เกิดอาการปอดบวม
ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแสงแล้ว และขยายความว่า ระยะเทียบได้กับการเดินทาง ไม่ใช่ระดับ
การที่โรคไปถึงระยะไหนไม่ได้ทำให้อาการรุนแรงขึ้น ไม่มีความหมาย
นอกจากการเตรียมจะตั้งการ์ด อย่างไรก็ต้องเดิน การกำหนดระยะของการระบาดก็เคยทำกับครั้งก่อน
เช่น ไข้หวัดนก ที่ให้ระยะที่ 1 ติดจากสัตว์ด้วยกัน ระยะที่ 2
จากสัตว์สู่คนและระยะที่ 3 ติดจากคนสู่คน
ครั้งนี้ ระยะที่ 1 เป็นการติดจากคนที่มาจากต่างประเทศ
ระยะที่2 ติดในประเทศ ในวงจำกัด ระยะที่ 3 เป็นการระบาดในวงกว้าง เราก็พยายามให้มันอยู่ระยะที่ 2 ถ้าจำกัดได้ก็ดี หากไม่ได้ก็รับมือกับมัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น